วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ข้าวผัดกุ้ง

ข้าวผัดกุ้ง




* ข้าวสวย 3 ถ้วงตวง
* กุ้งขนาดปานกลาง 12 ตัว (ล้างและปอกเปลือก)
* กระเทียมหั่นละเอียด 3 กลีบ
* พริกขี้หนูหั่นละเอียด 1/2 เม็ด (กรณีชอบรสจัด)
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
* ไข่ไก่ 2 ฟอง
* ต้นหอมซอยละเีอียด 3 ต้น
* ใบผักชี 1/2 ถ้วยตวง
* แตงกวา 1 ลูก (หั่นเป็นชิ้น)
* มะนาว 1/2 ลูก (หั่นเป็นเสี้ยว)
* มะเขือเทศ 1 ลูก (หั่นเป็นชิ้นๆ)
วิธีทำทีละขั้นตอน
1. ใส่น้ำมันในกระทะและนำไปตั้งไฟปานกลาง ใส่กระเทียมและพริกลงไปผัดจนเริ่มหอม (ประมาณ 1 นาที)
2. ใส่กุ้งลงไปในกระทะและผัดจนสุก
3. ใช้ตะหลิวย้ายส่วนผสมที่อยู่ในกระทะไปด้านข้าง แล้วตอกไข่ใส่ลงไปในกระทะ ใช้ตะหลิวเขี่ยไข่แดงให้แตก รอจนไข่เริ่มสุกให้ใส่ข้าวสวยลงไป และผัดทุกอย่างในกระทะให้เข้ากัน
4. ปรุงรสด้วยน้ำปลา และใส่มะเขือเทศลงไป ผัดต่ออีก 1-2 นาทีจึงปิดไฟ ก่อนเสิรฟโรยหน้าข้าวผัดด้วยต้นหอมซอยและผักชี จัดข้างจานด้วยแตงกวาซอยและมะนาวที่หั่นเป็นเสี้ยวไว้แล้ว เสิรฟพร้อมพริกน้ำปลา

วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ผัดถั่วลันเตา


                   
 ผัดถั่วลันเตา

       




ส่วนผสม


- ถั่วลันเตา
- กุ้งสด
- กระเทียม
- น้ำมัน
- ซีอิ๊วขาว
- น้ำมันหอย
- พริกไทยป่น


วิธีทำ
1 ตรียมตัดขั้วและลอกเส้นข้างของถั่วทิ้งไป ปอกเปลือกกุ้ง และสับกระเทียมเตรียมไว้
2 ตั้งหม้อต้มน้ำเปล่าให้เดือด เติมเกลือเล็กน้อย ใส่ถั่วลงลวกแค่พอถั่วเปลี่ยนสีเขียวเข้มสดขึ้น เทน้ำร้อนทิ้งและนำใส่ในน้ำเย็นจัดทันที พอถั่วเย็นดีแล้วตักขึ้นพักไว้
3 ตั้งกระทะ เทน้ำมัน พอร้อนใส่กระเทียม เจียวพอเหลืองส่งกลิ่นหอม ใส่กุ้ง ปรุงรสตามชอบ ผัดพอกุ้งสุกเปลี่ยนสีแดงขึ้น ใส่ถั่วลันเตาลงไปผัดพอเข้ากัน ปิดไฟจัดใส่จาน พร้อมเสริฟแล้ว

ผัดเผ็ดปลาดุก



ผัดเผ็ดปลาดุก




* ปลาดุก 1 ตัว,ล้างปลาดุกให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นๆ
* พริกขี้หนู 5-10 เม็ด (แล้วแต่ความชอบ)
* พริกชี้ฟ้าแดง 3-5 เม็ด (หั่นแฉลบ)
* ใบโหระพา 50 กรัม
* เม็ดพริกไทยสด 10-15 เม็ด
* กระชาย 20 กรัม
* ตะไคร้ 1 ต้น
* หอมแดง 2 หัว
* กระเทียม 6 กลีบ
* ผิวมะกรูดหั่นฝอย 1 ช้อนชา
* กะปิ 1/2 ช้อนชา
* รากผักชี 2-3 ราก
* น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
* น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมันพืช
วิธีทำทีละขั้นตอน
1. โขลกกระเทียม, หอมแดง, พริกขี้หนู, ตะไคร้, ผิวมะกรูด รากผักชีและกะปิเข้าด้วยกัน (หรือใช้เครื่องปั่นก็ได้)
2. ตั้งกระทะบนไฟร้อนปานกลาง ใส่เครื่องน้ำพริก (ที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่2) ลงไปผัดจนสุกหอม จากนั้นจึงใส่ปลาดุกลงไปผัดจนเกือบสุก
3. ใส่กระชาย, พริกชี้ฟ้า และพริกไทยเม็ดลงไปผัด ปรุงรสด้วยน้ำตาลและ น้ำปลา จากนั้นใส่ใบโหระพาลงไปผัดสักพักจึงปิดไฟ

4. ตักใส่จานและเสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ หรือจะเป็นกับแกล้มทานเล่นก็ดี


วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ส้มตำปูม้า

ส้มตำปูม้า



ส่วนผสมส้มตำปูม้า
มะละกอดิบ 1 ลูก
กระเทียม 5-6 กลีบ
พริกขี้หนู 5-6 เม็ด
มะเขือเทศผ่าครึ่ง 2 ลูก
ถั่วฝักยาวหั่น 1 ฝัก
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว หรือ
น้ำมะขามเปียก 1/4 ถ้วย
น้ำตาลปีป 1 ช้อนโต๊ะ 

ปูม้า 5- 8 ตัว
 



วิธีทำอาหารส้มตำปูม้า

1.ปลอกมะละกอ และล้างด้วยน้ำให้สะอาด แล้วทำการเฉาะและสับ แล้วใช้มีด ฝานให้เป็นเส้นๆ หรืออาจใช้ที่ไสมะละกอก็ได้
2.ใส่กระเทียมและพริกขี้หนู ลงในครก แล้วตำให้พอแตก
3.ใส่มะเขื่อเทศ, ถั่วฝักยาว, ปูดอง แล้วตำให้เข้ากัน
4.ใส่มะละกอ และ เครื่องปรุงที่เหลือ แล้วตำเบาๆ คลุกเคล้าให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ.

วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ไข่ลูกเขย

 ไข่ลูกเขย








* ไข่ไก่หรือไข่เป็ด 6 ฟอง (ต้มและแกะเปลือกออก)
* น้ำมะขามเปียก 3/4 ถ้วยตวง
* น้ำตาล 1/4 ถ้วยตวง
* น้ำปลา 1/4 ถ้วยตวง
* น้ำมัน 1/4 ถ้วยตวง
* หอมแดงซอยบางๆ 10-15 ลูก
* ผักชี (สำหรับแต่งหน้าอาหาร)

วิธีทำทีละขั้นตอน
1. ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้้งไฟร้อนปานกลาง นำไข่ต้มลงไปทอดจนผิวเริ่มกรอบและเป็นสีเหลือง เสร็จแล้วนำไข่ออกมาใส่จานเสริฟ
2. ใช้น้ำมันที่เหลือในกระทะ นำไปตั้งไฟ และใส่หอมแดงลงไปทอดจนเหลืองกรอบ (ระวังไหม้) นำออกมาสะเด็ดน้ำมัน
3. ใช้น้ำมันส่วนที่เหลือจากการทอดไข่และเจียวหอมแดง นำไปตั้งไฟ ใส่น้ำตาล, น้ำมะขามและน้ำปลา ปรุงจนได้รสชาติที่ต้องการ (รสชาติดั้งเดิมจะมีรสหวานและเปรี้ยวพอๆกัน)
4. หั่นไข่ต้ม และจัดเรียงไว้ในจาน ราดด้วยน้ำราดที่่ทำในขั้นตอนที่สาม โรยหน้าด้วยหอมเจียวและผักชี เสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

ลาบหมู

 ลาบหมู




* หมูสับ 350 กรัม
* ใบสาระแหน่ 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
* ต้นหอมซอย 3 ช้อนโต๊ะ
* ผักชีหั่นหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
* พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาล 0.5 ช้อนชา
* หอมแดงหั่นหยาบ 0.5 ถ้วยตวง
* น้ำซุปไก่ 1 ถ้วยตวง (หรือน้ำเปล่า)
* กะหล่ำปลี 0.5 ลูก (หั่นเป็นเสี้ยว)
* ถั่วฝักยาว 5 ต้น (หั่นเฉียง)

วิธีทำทีละขั้นตอน
1. ต้มน้ำในหม้อเล็ก ใส่หมูสับและต้มต่อไปอีก 2 นาที ระหว่างต้มใช้ทัพพีเขี่ยให้หมูแยกออกจากกัน เมื่อหมูสุกดีแล้วจึงปิดไฟ และเทน้ำออก
2. นำหมูที่สุกแล้วไปใส่ในชามขนาดกลาง เติมหอมแดง, ต้นหอม, ผักชี และใบสาระแหน่ (เหลือนิดหน่อยไว้แต่งหน้า) ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว, น้ำปลา, ข้าวคั่ว, พริกป่นและน้ำตาล คนจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน
3. ตักใส่จาน แต่งข้างจานด้วยผักสด (กะหล่ำปลี, ถั่วฝักยาว) โรยหน้าด้วยใบสาระแหน่ เสริฟพร้อมข้าวเหนียวร้อนๆ (หรือข้าวสวย)

แกงพะโล้

แกงพะโล้



 

ส่วนประกอบและเครื่องปรุงไข่พะโล้
1. ไข่เป็ด 5 ฟอง
2. หมูสามชั้น หั่นชิ้นหนา 500 กรัม
3. เห็ดหอมแห้งดอกเล็ก 70 กรัม
4. เครื่องพะโล้ 1 ห่อ  (สำหรับเนื้อสัตว์ 1 กก.)
5. กระเทียมไทยกลีบเล็ก 1 หัว , รากผักชี 3 ราก , พริกไทยเม็ด 30 เม็ด
6. ผักชี 2 ต้นใหญ่
7. น้ำตาลปี๊บ
8. ซีอิ๊วขาว
9. ซอสปรุงรส
10. เกลือป่น
11. น้ำซุป
12. น้ำมันสำหรับผัดเครื่อง นิดหน่อย
ขั้นตอนและวิธีทําไข่พะโล้
1. ทำการต้มไข่ไว้ก่อนเลยค่ะ เริ่มด้วยใส่น้ำสัก 4 ถ้วยลงในหม้อต้มไข่ค่ะ  พอน้ำเดือดก็ใส่เกลือลงไปหน่อย ประมาณสัก 1/2 ช้อนโต๊ะ  (เพื่อให้ไข่มีรสชาติ และเพื่อให้เปลือกไข่หลุดง่ายขึ้น) แล้วก็ตามด้วยไข่เป็ดที่เราล้างสะอาดแล้วค่ะ
2. ต้มไข่ไปประมาณสัก 10 นาที จากนั้นล้างน้ำซะ 1 ครั้ง แล้วเอามาแช่น้ำเย็นไว้ ไข่จะได้เย็นไวๆค่ะ
3. พอไข่เริ่มเย็น ทำการปอกเปลือกไข่นะคะ เอาตามจำนวนที่เราจะใช้ค่ะ จากนั้นพักไข่ไว้ค่ะ
4. นำเห็ดหอมล้างน้ำแบบผ่านๆให้สะอาด 1 รอบ ล้างเสร็จแช่เอาไว้ในน้ำอุ่นประมาณสัก 20 นาที พอเห็ดหอมนิ่มดีแล้ว ก็นำมาตัดปลายที่แข็งๆ ทิ้งไป เหลือไว้แต่เฉพาะตัวดอกและส่วนนิ่มๆ (อย่าลืมเก็บน้ำแช่เห็ดหอมไว้นะคะ เราจะเอาไว้ใส่ในน้ำพะโล้ ทำให้มีกลิ่นหอมของเห็ดหอมมากขึ้น)
5. เตรียมหมูสามชั้นนำมีดโกนขูดขนตรงบริเวณหนังออกให้หมด แล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นก็หั่นหมูสามชั้นเป็นชิ้นใหญ่ๆ
6. ส่วนผักชีและรากผักชีจัดการล้างไว้ให้สะอาด กระเทียมไทยก็แกะไว้เป็นกลีบๆ กลีบไหนเปลือกแข็งปอกเปลือกทิ้งไปนะคะ
7. โขลกพริกไทย + รากผักชี + กระเทียม ไม่ต้องโขลกละเอียดมากก็ได้ค่ะ แล้วพักไว้
8. นำเอาเครื่องพะโล้ที่เป็นชิ้นมาล้างน้ำนะคะ ผึ่งให้แห้งนิดๆ แล้วนำมาคั่วหรือย่างไฟให้หอมค่ะ
9. จากนั้นตั้งกระทะนำหมูสามชั้นที่เตรียมไว้ลงไปผัด เพื่อให้ผิวหมูด้านนอกมันสุก (ไม่ต้องใส่น้ำมันนะคะ เพราะน้ำมันจากมันหมูมันจะออกมาเอง) แล้วพอผิวนอกหมูสุก เริ่มเหลือง ก็ตักขึ้นพักไว้ในหม้อก่อนค่ะ
10. เติมน้ำมันพืชลงไปในกระทะเล็กน้อย พอน้ำมันร้อนใส่เครื่องที่เราโขลกไว้แล้วและเครื่องพะโล้ชนิดผงลงไป ผัดจนหอม ก็ใส่น้ำตาลปี๊บลงไปประมาณสัก 200 -250 กรัมค่ะ
11. ลดไฟลงให้เหลือไฟกลางๆ ผัดไปจนกระทั่งน้ำตาลปี๊บละลาย และเคี่ยวต่อจนกระทั่งน้ำตาลปี๊บกลายเป็นสีน้ำตาลเข้มและริมขอบกระทะออกไหม้ นิดๆ ก็เป็นอันว่าใช้ได้ แล้วใส่หมูสามชั้นที่เราผัดไว้ลงไป ตามด้วยไข่เป็ดค่ะ (ตรงนี้ต้องทำเร็วนิดนึงค่ะ ระวังไหม้ หากกลัวไหม้ เติมน้ำเห็ดหอมลงไปได้สักครึ่งหนึ่งก่อนค่ะ)
12. ผัดให้ไข่และหมูสามชั้นเข้ากันดีกับน้ำตาล จนน้ำตาลเคลือบไข่กับหมูไปทั่วๆ เติมน้ำแช่เห็ดหอม และเห็ดหอมลงไป ตามด้วยน้ำซุป (ถ้าไม่มีสามารถใช้น้ำสะอาดแทนได้ค่ะ) ให้ท่วมเครื่อง เพราะกว่าเราจะเคี่ยวหมูเปื่อยนุ่มได้ที่ น้ำพะโล้ก็จะลดลงไปเยอะมาก
13. อย่าลืมใส่เครื่องพะโล้แบบเป็นชิ้นไม้หอมต่างๆลงไปนะคะ และเติมเครื่องปรุงรสทั้งหมดลงไปด้วยค่ะ ซึ่งก็จะมีซีอิ๊วขาว + ซอสปรุงรส + เกลือป่นนิดหน่อย
14. หลังจากนั้นก็ปิดฝา แล้วตั้งเคี่ยวไปประมาณสัก 1/2 ชั่วโมง ชิมดูว่ารสชาติถูกใจหรือไม่ถูกใจ สามารถปรุงเพิ่มเอาตามชอบเลยค่ะ  (เค็มนำ หวานนิดๆ) แล้วก็เคี่ยวต่อไป (ไฟอ่อน) อีกประมาณ 30 นาทีค่ะ เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะได้ไข่พะโล้รสอร่อย หมูนุ่ม กับเห็ดหอม เสริฟกับข้าวสวยร้อนๆ โรยหน้าไข่พะโล้ด้วยผักชีเล็กน้อย พร้อมรับประทานค่ะ